meetnetshop ค่าสมัคร 300 บาท ไม่มีรายเืดือน ไม่ต้องรักษายอด รายได้ 990,000 บาท

สนใจสอบถามข้อมูลเข้าได้นะครับ
ช่องทางติดต่อบอกไว้ในหน้าเว็บ

meetnetshop ลงทุน 300 บาท ครั้งเดียว ไม่มีค่าใช้จ่าย รายเดือน
หาดาวน์ไลน์แค่ 2 คน ไม่ต้องขาย ไม่ต้องซื้อ
รับรายได้ 8 ช่องทาง จ่ายผลตอบแทนลึก 12 ชั้น
รับรายได้มากถึง 990,000 บาท

มีหลายคนถามผมว่า
ธุรกิจ meetnetshop เป็นธุรกิจร้านค้าออนไลน์ ถ้าสมัครสมาชิกแล้ว ต้องมาขายของเหรอ
ขอตอบว่า ไม่ต้องขายของครับ ประเภทสมาชิกที่ผมแนะนำให้พวกคุณสมัครคือ
สมาชิกประเภทหุ้นส่วนธุรกิจ หน้าที่หลักก็คือแนะนำให้คนมาสมัครสมาชิก meetetshop
แค่ 2 คน ก็พอ แล้วเราได้ค่าแนะนำ และผลตอบแทนถึง 8 ช่องทาง ลึก 12 ชั้น
สำหรับรายละเอียดจะบอกไว้ในหน้าเว็บ ตามเมนูต่าง ๆ นะครับ
เมื่อเป็นสมาชิกก็มีสิทธิ ใช้บริการต่าง ๆ เช่น ซื้อสินค้า ฝากขายสินค้า ซึ่งเราจะใช้บริการหรือไม่ก็ได้ครับ
ถ้าสนใจ ก็เข้ามาคุยกันก่อนนะครับ ช่องทางการติดต่อ บอกไว้ที่หน้าเว็บ ยินดีตอบทุกคำถามครับ

กิจการเริ่มคึกคัก หลังจากที่ผมสมัครได้ไม่กี่วัน
ได้ดาวน์ไลน์แล้ว 3 คน
รอแอกทีฟอีก 2 คน
รอแอกทีฟชั้น 2 อีก 1 คน

ตอนนี้รหัสสมาชิกถึงแค่ รหัสที่ สี่ร้อยกว่า ธุรกิจยังมีโอกาสขยายตัวได้อีกมาก
เพราะแผนการตลาดที่ดี จ่ายค่าสมัครแล้ว ไม่มีการหมดอายุ ทำให้คนหันมาสนใจธุรกิจนี้มากขึ้น
รีบมาเป็นต้นสายกัน ถ้าหน้าโฆษณาของทีมเสร็จภายใน 1 เดือน จะมีระบบสุ่มหาดาวน์ไลน์ให้
ถ้าสมัครเข้ามาก่อนจะได้เปรียบมากครับ

หลายท่านสงสัยว่า เป็นสมาชิกแบบ หุ้นส่วนธุรกิจ ( Active ) ที่จ่ายค่าสมัคร 300 บาท
มีข้อดีกว่า สมาชิกแบบผู้ซื้อ ( Buyer ) ที่ซื้อสินค้า มูลค่า 300 บาท อย่างไร
นอกเหนือจากการฝากขายสินค้าได้
ผมจึงได้นำเสนอ ไปทางเจ้าของเว็บไซต์ meetnetshop
เพื่อเพิ่มผลตอบแทน และผลประโยชน์สำหรับสมาชิกแบบ หุ้นส่วนธุรกิจ ( Active )
ให้คุ้มค่าที่สุด เร็ว ๆ นี้ จะมีข่าวดีมาแจ้งให้ทุกท่านทราบอย่างแน่นอนครับ

ปล. จะสมัครสมาชิกแบบ หุ้นส่วนธุรกิจ ( Active ) เอาไว้ก่อนเลยก็ได้นะครับ
เพราะว่า ธุรกิจเรา ไม่มีค่าสมาชิกรายเดือนอยู่แล้ว

สมาชิกของ meetnetshop มีสองแบบ

1. สมาชิกแบบหุ้นส่วนธุรกิจ หรือ แบบ A จ่ายค่าสมัคร 300 บาท
เหมาะสำหรับ นักธุรกิจเครือข่าย และ ผู้ต้องการรายได้เสริม
ที่ไม่อยากซื้อสินค้า หรือ ขายสินค้า แต่หาดาวน์ไลน์อย่างเดียว
เพื่อเป้าหมาย รายได้ 990,000 บาท

2. สมาชิกแบบผู้ซื้อ หรือ แบบ B ซื้อสินค้ามูลค่า 300 บาท
เหมาะสำหรับผู้บริโภค หรือ ลูกค้าของ meetnetshop
ที่ต้องการสร้างเครือข่ายผู้บริโภค
ค่าแนะนำธุรกิจต่อราย จะได้น้อยกว่า แบบ A

ผมเองก็เป็นสมาชิกแบบ A
พวกคุณที่เข้ามาดูกระทู้นี้ ส่วนใหญ่ก็คงจะสมัครแบบ A นะครับ
จะได้เข้ามาร่วมสร้างเครือข่าย สร้างรายได้ด้วยกัน

ผลการประชุมเพื่อปรับปรุงแผนรายได้ครับ

ตอนนี้ สมาชิกของ meetnetshop มีประเภทเดียวเท่านั้น จะได้ไม่สับสนว่าจะสมัครวิธีไหนดี
ซึ่งวิธีสมัครเป็นสมาชิก คือการกรอกใบสมัคร จ่ายค่าสมัคร 300 บาท และโทรแจ้งโอนเงินครับ

ถ้ารายได้ของคุณครบทุก 5400 บาท meetnetshop จะหักเงินรายได้ของคุณ 540 บาท (แต่ไม่เกินเดือนละ 540 บาท )
แต่คุณจะได้เลือกสินค้า ราคา 500 บาท ค่าจัดส่ง 40 บาท และคุณจะได้รหัสสมาชิกเพิ่ม อีก 1 รหัส ทันที
โดยที่ไม่ต้องลงทุนเพิ่มแต่อย่างใด แต่ถ้ารายได้คุณยังไม่ถึง คุณก็ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ใด ๆ ทั้งสิ้น
นอกจากค่าสมัครครั้งแรก 300 บาท เท่านั้นครับ

ถ้าคุณต้องการสมัครเพิ่มอีก 1 รหัส โดยไม่ต้องการรอให้รายได้ถึง 5400 บาท คุณสามารถ สมัครได้เลย
โดยการสมัครต่อรหัสแรก โดยจ่ายค่าสมัคร 300 บาท หรือ ซื้อสินค้า มูลค่า 500 บาท วิธีใดวิธีหนึ่ง

ท่านที่กรอกใบสมัครแล้ว
ผมจะส่งอีเมล ที่มีข้อมูลธุรกิจ วิธีการโอนเงิน และแจ้งโอนเงิน
ในอีเมล จะมีข้อมูลการติดต่อผม ทาง โทรศัพท์ อีเมล MSN และ เฟซบุ๊ค
รวมทั้ง ผมจะได้ แอด MSN และ แอดขอเป็นเพื่อนในเฟซบุ๊ค
เพื่อให้คุณสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้สะดวกนะครับ

ดังนั้น ขอให้ติดต่อกลับมาหาผมด้วย เพื่อจะได้คุยรายละเอียดธุรกิจ
ตอบข้อสงสัยต่าง ๆ เพื่อคุณจะได้ดำเนินการสมัครให้เสร็จสมบูรณ์
และเริ่มต้นทำธุรกิจได้ทันทีครับ

ตอนนี้ meetnetshop เพิ่มวิธีแจ้งโอนเงินมาอีกหนึ่งวิธี คือ การแจ้งโอนเงินผ่านหน้าเว็บ
โดยการล็อกอินเข้าระบบ meetnetshop ของคุณ กรอกรหัสสมาชิก ( ตามข้อ 1 )
และรหัสผ่าน ที่คุณตั้งเอาไว้ ตอนกรอกใบสมัคร
เข้าระบบแล้ว คลิ๊กคำว่า แจ้งการActive ที่เมนูด้านบน อันที่สองจากซ้าย
กรอกข้อมูลในแบบฟอร์ม ข้อมูลผู้สั่งซื้อ(กรณีเป็นสมาชิก)
กรอกครบแล้ว ให้กดปุ่ม ส่งรายการสั่งซื่อสินค้า-รายการActive
การตรวจสอบว่าข้อมูล ส่งถึงหรือยัง ให้กดปุ่ม ประวัติสั่งซื้อ จากเมนูด้านข้าง อันทีสอง
ดูที่ช่องสถานะ จะขึ้นข้อความว่า รอยืนยัน แสดงว่าข้อมูลส่งถึงแล้ว
สถานะจะเป็นแอกทีฟ ไม่เกิน 9.00 น วันถัดไป
แต่คุณ สามารถเริ่มหาดาวน์ไลน์ได้เลย

เมื่อโอนเงินค่าสมัครแล้ว คุณจะใช้วิธีแจ้งโอนเงินทางโทรศัพท์ หรือ ผ่านหน้าเว็บ ก็ได้
ตามความสะดวกครับ
ดูข้อมูลเพิ่มเติมที่
http://meetnetshop384.blogspot.com/p/blog-page_9191.html

ถ้าสนใจสอบถามเข้ามาได้ครับ
ติดต่อผมได้ที่ : mongcaljun@yahoo.com
โทร : 0817967008
facebook : https://www.facebook.com/pages/meetnetshop/168283916593587 กด like
แล้วเขียนข้อความไว้บนกระดานข่าว ผมจะมาตอบครับ

หรือจะกรอกใบสมัครเลยก็ได้ ขั้นตอนการกรอกใบสมัครคุณยังไม่เสียเงินนะครับ
กรอกใบสมัครแล้ว ผมจะส่งเมลรายละเอียดธุรกิจ แอด MSN ไปหา
แล้วเราจะได้มาคุยรายละเอียดกันครับ

อยากทำธุรกิจเครือข่ายให้ประสบความสำเร็จ ต้องเปลี่ยนแนวคิด

ใน การทำธุรกิจเครือข่ายให้ประสบความสำเร็จนั้น ไม่ได้เป็นเรื่องที่ง่ายดายเหมือนปลอกกล้วยเข้าปาก
แต่ก็ไม่ได้ยากจนเกินความสามารถของคนธรรมดา เพียงแต่นักธุรกิจเครือข่าย จะต้องมีแนวคิด
และมีความเข้าใจในหลักการของการทำธุรกิจอย่างถ่องแท้ มีหลาย ๆ แนวคิดที่ได้รับการถ่ายทอดกันมา
เรียกได้ว่าเป็นแนวคิดที่บิดเบือนความจริง ทำให้ผู้คนที่เข้ามาทำธุรกิจเกิดความเข้าใจผิด
อันเป็นผลให้ล้มเหลวในการทำธุรกิจเครือข่าย เรามาดูกันว่าแนวคิดอะไรบ้างที่จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนให้ถูกต้อง
และเหตุผลที่ต้องเปลี่ยนเป็นเพราะอะไร

แนวคิดเรื่องแผนการตลาด
อัน ที่จริงแล้ว ตลาด หมายถึง สถานที่ที่ผู้ซื้อและผู้ขายได้มาเจอกัน เพื่อเจรจาตกลงซื้อ-ขายกัน ส่วนคำว่า การตลาด
หมายถึง การกระทำใด ๆ ก็ตามที่สามารถทำให้ผู้ซื้อและผู้ขายได้มาพบกัน ดังนั้น แผนการตลาด จึงหมายถึง
แผนดำเนินการที่ได้กำหนดไว้เพื่อนำไปปฏิบัติ เพื่อก่อให้เกิดผลลัพธ์ คือ การได้พบเจอกันของผู้ซื้อและผู้ขาย

มี นักธุรกิจเครือข่ายหลายท่านเรียก แผนรายได้ หรือ แผนการจ่ายผลตอบแทน ว่าเป็น แผนการตลาด อันนี้ไม่ถูกต้อง
เพราะแผนรายได้ หรือ แผนการจ่ายผลตอบแทน ของทุก ๆ บริษัท ไม่ได้มีส่วนไหนเลยที่กล่าวถึงเรื่องการทำให้
ผู้ซื้อ-ผู้ขายได้มาพบเจอกัน ซึ่งก็คือ การตลาด แต่จะเป็นเรื่องของการจ่ายผลตอบแทนให้กับนักธุรกิจเครือข่าย
เมื่อสามารถทำผลงานเข้าหลักเกณฑ์ ที่จริงแล้วแผนรายได้/แผนการจ่ายผลตอบแทน เป็นเพียงส่วนหนึ่ง
เพื่อกระตุ้นให้เกิดการตัดสินใจเข้าร่วมทำธุรกิจ ดังนั้น แผนรายได้/แผนการจ่ายผลตอบแทน จึงไม่ใช่ แผนการตลาด

ทำธุรกิจเครือข่ายไม่ต้องขายของ
นัก ธุรกิจเครือข่ายเกือบแทบทุกบริษัท มักจะบอกว่า บริษัทของเขาไม่เน้นเรื่องการขาย แต่ร้อยทั้งร้อย
จะต้องมี "กำไรจากการขายปลีก" อยู่ในแผนรายได้/แผนการจ่ายผลตอบแทน เป็นข้อแรก ที่จริงแล้วตัวบริษัท
ประเภทธุรกิจเครือข่ายเอง ก็ไม่ได้เน้นในเรื่องของการขายปลีก เพราะผู้ซื้อปลีกถือว่าเป็นลูกค้าจร จะซื้อเมื่อไหร่ก็ได้
บริษัทฯไม่สามารถควบคุมความถี่ในเรื่องของการซื้อได้ ดังนั้นบริษัทฯจึงเน้นการหาสมาชิก ในการเป็นสมาชิกก็มีอยู่
หลายระดับ ตั้งแต่ ระดับผู้บริโภค ไปจนถึงนักธุรกิจระดับกลางและระดับใหญ่ การสมัครเข้ามาเป็นสมาชิกในระดับ
นักธุรกิจของทุกบริษัท จะมีข้อกำหนดในเรื่องของตัวเงินที่เข้ามาซื้อสินค้า แน่นอนว่าจำนวนเงินที่ต้องใช้ใน
การเข้าร่วมธุรกิจครั้งแรก จะได้ผลิตภัณฑ์กลับไปมากกว่า 1 ชิ้น แล้วยังมีข้อกำหนดที่จะต้องรักษายอด หรือเรียกว่า
ซื้อซ้ำทุกเดือน เพื่อรักษาสิทธิในการได้รับรายได้ตามแผน เห็นไหมครับว่า เกิดการซื้อขึ้นแล้ว
และจะมีการซื้อซ้ำเกิดขึ้นตามมาด้วย ทีนี้บริษัทฯก็จะได้ลูกค้าประจำเลยทีเดียว แล้วหน้าที่ของนักธุรกิจเครือข่าย
ประการแรกก็คือ การหาสมาชิก หรือ การสปอนเซอร์ผู้เข้ามาทำธุรกิจ แล้วจะบอกว่า ทำธุรกิจเครือข่ายไม่ต้องขายของ
ได้อย่างไร ดังนั้น การหาสมาชิก/การสปอนเซอร์ ก็คือ การขาย หนำซ้ำยังเป็นการขายแบบชุดใหญ่ หรือเรียกว่า
ขายเป็น Lot อีกด้วย

ทำธุรกิจเครือข่าย แค่ซื้อกินซื้อใช้ ก็มีรายได้
ใน แผนรายได้ หรือ แผนการจ่ายผลตอบแทนของบางบริษัท มีระบุถึงการจ่ายผลตอบแทน หรือบางทีเรียกว่า โบนัส
เมื่อสมาชิกมีคะแนนส่วนตัวในแต่ละเดือนถึงตามที่กำหนด อันนี้ก็ไม่ใช่รายได้ ที่ถูกต้องน่าจะเรียกว่าส่วนลดพิเศษ
จะเหมาะกว่า เพื่อน ๆ ลองพิจารณาดูตัวอย่างจาก Tesco Lotus ก็ได้ ถ้าใครมี Club Card นั่นหมายความว่าเป็นสมาชิก
ใช่ไหมครับ ในการซื้อสินค้าจะมีการได้คะแนนสะสมด้วย เมื่อมีคะแนนถึงตามที่กำหนด ก็จะได้คูปองเอาไว้ใช้แทนเงินสด
อย่างนี้เรียกว่าเป็น รายได้ หรือเปล่า ถ้าใช่ก็ยุ่งหละ เดียวสรรพากรมาตามเก็บภาษีแน่เลย

แนวคิดทั้งหมดที่ ได้กล่าวมาแล้ว เป็นแนวคิดที่ถ่ายทอดกันมารุ่นสู่รุ่น เพื่อน ๆ อาจได้รับการถ่ายทอดจนเชื่อไปตามนั้น
หากต้องการทำธุรกิจเครือข่ายให้ประสบความสำเร็จ จำเป็นต้องเปลี่ยนแนวคิดเหล่านี้โดยด่วน แล้วเพื่อน ๆ จะพบว่า
งานที่จะต้องทำอันดับแรกคือ การหาสมาชิก (สร้างองค์กรของเรา) ซึ่งก็คือ การทำการตลาด นั่นเอง
หลังจากนั้นจะต้อง เพิ่มศักยภาพให้แก่สมาชิกในองค์กรของเรา หรือที่เรียกว่า การสร้างผู้นำนั่นเอง